ในช่วงเช้าของวันที่ 9 สิงหาคม มีรายงานจากทาง สน.วิภาวดี ระบุว่ามีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี และหวังจะนำเงินที่ได้จากการรวมตัวครั้งนี้ไปมอบให้กับทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 หวังที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเนปาล และยังเผยอีกว่ามียอดจำนวนเงินรวมกันทั้งสิ้นมากถึง 5 หมื่นบาท ซึ่งก็นับว่าเป็นกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างมากทีเดียว แต่หากใครที่ได้เดินทางโดยใช้ถนนวิภาวดีในเวลานั้นจะรู้ได้เลยว่า การจารจรในเวลานั้นติดขัดมากๆ เพราะมียอดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 361 คน และยังมีการใช้ยานพาหนะอย่างรถจักรยานยนต์สูงถึง 258 คันด้วยกัน เรียกได้ว่าทำให้การจารจรเวลานั้นถึงขั้นขับไม่ได้เป็นอัมพาตเลยทีเดียว
ซึ่งทำให้ต้องร้อนถึง พ.ต.ท.สนอง แสงมณี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก. ประจำสถานีตำรวจวิภาวดี ต้องเข้ามาดูแลการจารจรให้เป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งต้องใช้กำลังตำรวจมากถึง 30 นาย เพื่อเข้ามาจับกุมรถจักรยานยนต์ทั้งหมด เพราะมีการแจ้งเข้ามาจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในบริเวณนั้น อีกทั้งยังมองว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะเป็นการปิดช่องทางด่วนของ ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก จนไม่สามารถใช้การได้เลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังได้มี การพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และได้ทำการอธิบายเหตุผลต่างๆ ซึ่งกลุ่มจักรยานยนต์ทั้งหมดนี้เพียงแค่ต้องการจะเดินทางไปยัง หาดบางแสนในจังหวัดชลบุรีและต้องการเดินทางไปยัง จังหวัดนครนายกเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ก่อนที่จะมีการนำเงินจำนวนมากถึง 5 หมื่นบาทไปบริจาค ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำแค่เพียงตรวจสอบความถูกต้องตามกฎระเบียบ เช่น ตรวจใบขับขี่ จับผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อก และติเตียนเรื่องการวางระเบียบแผนการในการทำกิจกรรมให้ดีเพื่อไม่ให้เป็นที่ เดือดร้อนเพื่อนร่วมถนนคนอื่นๆ เท่านั้นเอง